วันวิสาขบูชา 2555


วันวิสาขบูชา ( Vesak Day )

          วันวิสาขบูชา  ตรงกับวันขึ้ น ๑๕ ค่ำเดือน ๖  ความหมาย คำว่า "วิสาขบูชา" หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ เนื่องในโอกาสวันประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
          วิสาขบูชา ย่อมาจาก " วิสาขปุรณมีบูชา " แปลว่า " การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ " ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน ๗

หัวข้อ
ความสำคัญของวันวิสาขบูชา
          ความสำคัญ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง ๓ คราวคือ
          ๑. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อเช้าวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี
     ๒. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี หลังจากออกผนวชได้ ๖ ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย
     ๓. หลังจากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสัตว์ ๔๕ ปี พระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมื่อวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมือง กุสีนคระ) แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย
     นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ที่เหตุการณ์ทั้ง ๓ เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี บังเอิญเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน ๖ ดังนั้นเมื่อถึงวันสำคัญ เช่นนี้ ชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิตได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ของพระองค์ท่าน ผู้เป็นดวงประทีปของโลก

เจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า


เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ


พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน

[ดูภาพทั้งหมดในหมวด]
ประวัติความเป็นมาของวันวิสาขบูชาในประเทศไทย
          วันวิสาขบูชานี้ ปรากฏตามหลักฐานว่า ได้มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งสันนิษฐานว่า คงจะได้แบบอย่าง มาจากลังกา กล่าวคือ เมื่อประมาณ พ.ศ. ๔๒๐ พระเจ้าภาติกุราช กษัตริย์แห่งกรุงลังกา ได้ประกอบพิธีวิสาขบูชาอย่าง มโหฬาร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา กษัตริย์ลังกาในรัชกาลต่อ ๆ มา ก็ทรงดำเนินรอยตาม แม้ปัจจุบันก็ยังถือปฏิบัติอยู่
          สมัยสุโขทัย นั้น ประเทศไทยกับประเทศลังกามีความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนาใกล้ชิดกันมากเพราะ พระสงฆ์ชาวลังกา ได้เดินทางเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนา และเชื่อว่าได้นำการประกอบพิธีวิสาขบูชามาปฏิบัติในประเทศไทยด้วย
          ในหนังสือนางนพมาศได้กล่าวบรรยากาศการประกอบพิธีวิสาขบูชาสมัยสุโขทัยไว้ พอสรุปใจความได้ว่า " เมื่อถึงวันวิสาขบูชา พระเจ้าแผ่นดิน ข้าราชบริพาร ทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ตลอดทั้งประชาชนชาวสุโขทัยทั่วทุก หมู่บ้านทุกตำบล ต่างช่วยกันทำความสะอาด ประดับตกแต่งพระนครสุโขทัยเป็นการพิเศษ ด้วยดอกไม้ของหอม จุดประทีปโคมไฟแลดูสว่างไสวไปทั่วพระนคร เป็นการอุทิศบูชาพระรัตนตรัย เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน พระมหากษัตริย์ และบรมวงศานุวงศ์ ก็ทรงศีล และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ ครั้นตกเวลาเย็น ก็เสด็จพระราช ดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และนางสนองพระโอษฐ์ต ลอดจนข้าราชการทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ไปยังพระ อารามหลวง เพื่อทรงเวียนเทียนรอบพระประธาน
          ส่วนชาวสุโขทัยชวนกันรักษาศีล ฟังธรรมเทศนา ถวายสลากภัต ถวายสังฆทาน ถวายอาหารบิณฑบาต แด่พระภิกษุ สามเณรบริจาคทรัพย์แจกเป็นทานแก่คนยากจน คนกำพร้า คนอนาถา คนแก่ คนพิการ บางพวกก็ชวนกันสละทรัพย์ ปล่อยสัตว์ ๔ เท้า ๒ เท้า และเต่า ปลา เพื่อชีวิตสัตว์ให้เป็นอิสระ โดยเชื่อว่าจะทำให้คนอายุ ยืนยาวต่อไป "
          ในสมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ด้วยอำนาจอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ เข้าครอบงำประชาชนคนไทย และมีอิทธิพลสูงกว่าอำนาจของพระพุทธศาสนา จึงไม่ปรากฎหลักฐานว่า ได้มีการประกอบพิธีบูชาในวันวิสาขบูชา จนมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๖๐) ทรงดำริกับ สมเด็จพระสังฆราช (มี) สำนักวัดราชบูรณะ มีพระราชประสงค์จะให้ฟื้นฟู การประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชาขึ้นใหม่ โดย สมเด็จพระสังฆราช ถวายพระพรให้ทรงทำขึ้น เป็นครั้งแรกในวันขึ้น ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๓๖๐ และให้จัดทำตามแบบอย่างประเพณีเดิมทุกประการ เพื่อมีพระประสงค์ให้ประชาชนประกอบการบุญการกุศล เป็นหนทางเจริญอายุ และอยู่เญ็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัย และอุปัทวันตรายต่างๆ โดยทั่วหน้ากัน
          ฉะนั้น การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชาในประเทศไทย จึงได้รื้อฟื้นให้มีขึ้นอีกครั้งหนึ่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ และถือปฏิบัติมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
          การจัดงานเฉลิมฉลองในวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกยุคทุกสมัย คงได้แก่การจัดงานเฉลิมฉลอง วันวิสาขบูชา พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งทางราชการเรียกว่างาน " ฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ " ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๘ พฤษภาคม รวม ๗ วัน ได้จัดงานส่วนใหญ่ขึ้นที่ท้องสนามหลวง ส่วนสถานที่ราชการ และวัดอารามต่างๆ ประดับธงทิวและโคมไฟสว่างไสวไปทั่วพระ ราชอาณาจักร ประชาชนถือศีล ๕ หรือศีล ๘ ตามศรัทธาตลอดเวลา ๗ วัน มีการอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์รวม ๒,๕๐๐ รูป ประชาชน งดการฆ่าสัตว์ และงดการดื่มสุรา ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๔ พฤษภาคม รวม ๓ วัน มีการก่อสร้าง พุทธมณฑล จัดภัตตาหาร เลี้ยงพระภิกษุสงฆ์วันละ ๒,๕๐๐ รูป ตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารแก่ประชาชน วันละ ๒๐๐,๐๐๐ คน เป็นเวลา ๓ วัน ออกกฎหมาย สงวนสัตว์ป่าในบริเวณนั้น รวมถึงการฆ่าสัตว์ และจับสัตว์ในบริเวณวัด และหน้าวัดด้วย และได้มีการปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่ อย่างพร้อมเพรียงกัน เป็นกรณีพิเศษ ในวันวิสาขบูชาปีนั้นด้วย


หลักธรรมสำคัญที่ควรนำมาปฏิบัติ
          หลักธรรมอันเกี่ยวเนื่องจากการประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพาน คือ ความกตัญญู อริยสัจ ๔ และความไม่ประมาท
          ๑. ความกตัญญู คือความรู้อุปการคุณที่มีผู้ทำไว่ก่อน เป็นคุณธรรมคู่กับความกตเวที คือ การตอบแทนอุปการคุณที่ผู้อื่นทำไว้นั้น
          • บิดามารดา มีอุปการคุณแก่ลูก ในฐานะผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนเติบโต ให้การศึกษาอบรมสั่งสอน ให้เว้นจากความชั่ว มั่นคงในการทำความดี เมื่อถึงคราวมีคู่ครองได้จัดหาคู่ครองที่เหมาะสมให้ และมอบทรัพย์สมบัติให้ไว้เป็นมรดก
          • ลูกเมื่อรู้อุปการะคุณที่บิดามารดาทำไว้ ย่อมตอบแทนด้วยการประพฤติตัวดี สร้างชื่อเสียงให้ แก่วงศ์ตระกูล เลี้ยงดูท่าน และช่วยทำงานของ ท่าน และเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน
          • ครูอาจารย์มีอุปการคุณแก่ศิษย์ ในฐานะเป็นผู้ประสาทความรู้ให้ ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดี สอนศิลปวิทยาให้อย่างไม่ปิดบังยกย่องให้ปรากฎแก่คนอื่น และช่วยคุ้มครองให้ศิษย์ทั้งหลาย
          • ศิษย์เมื่อรู้อุปการคุณที่ครูอาจารย์ทำไว้ ย่อมตอบแทนด้วยการตั้งใจเรียน ให้เกียรติ และให้ความเคารไม่ล่วงละเมิดโอวาทของครู
          • ความกตัญญูและความกตเวทีนี้ ถือว่าเป็นเครื่องหมายของคนดี ส่งผลให้ครอบครัว และสังคมมีความสุขได้เพราะ บิดามารดาจะรู้จักหน้าที่ของตนเอง ด้วยการทำอุปการคุณให้ก่อน และลูกก็จะรู้จักหน้าที่ของตนเองด้วยการทำดีตอบแทน
          • นอกจากบิดากับลูก และครูอาจารย์กับศิษย์แล้ว คุณธรรมข้อนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้แม้ระหว่าง นายจ้างกับลูกจ้าง อันจะส่งผลให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
          • ในทางพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้า ทรงเป็นบุพการรีในฐานะที่ทรงสถาปนาพระพุทธศาสนา และทรงสอนทางพ้นทุกข์ให้แก่เวไนยสัตว์
          • พุทธศาสนิกชน รู้พระคุณอันนี้จึงตอบแทนด้วยอามิสบูชาและปฎิบัติบูชากล่าวคือการจัดกิจกรรม ในวันวิสาขบูชา เป็นส่วนหนึ่งที่ชาวพุทธแสดงออก ซึ่งความกตัญญูกตเวที ต่อพระองค์ด้วยการทำนุ บำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา และประพฤติปฎิบัติธรรม เพื่อดำรงอายุพระพุทธศาสนาสืบไป

          ๒. อริยสัจ ๔  อริยสัจ ๔ คือ ความจริงอันประเสริฐ หมายถึงความจริงของชีวิตที่ไม่ผันแปร เกิดมีได้แก่ทุกคน มี ๔ ประการ คือ
          • ทุกข์ ได้แก่ปัญหาของชีวิตพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ก็เพื่อให้ทราบว่ามนุษย์ทุกคนมีทุกข์เหมือนกัน ทั้งทุกข์ขั้นพื้นฐาน และทุกข์เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ทุกข์ขั้นพื้นฐานคือทุกข์ที่เกิดจาก การเกิด การแก่ และการตาย ส่วนทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน คือทุกข์ที่เกิด จากการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากการประสบกันสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากไม่ได้ตั้งใจปรารถนา รวมทั้งทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตด้านต่างๆ อาทิความ ยากจน
          • สมุทัย คือ เหตุแห่งปัญหาพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์ทั้งหมดซึ่งเป็นปัญหา ของชีวิตล้วนมีเหตุให้เกิดเหตุนั้น คือ ตัญหา อันได้แก่ความอยากได้ต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยความยึดมั่น
          • นิโรธ คือ การแก้ปัญหาได้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์คือปัญหาของชีวิต ทั้งหมดที่สามารถแก้ไข ได้นั้นต้องแก้ไขตามทางหรือวิธีแก้ ๘ ประการ ( ดูมัชฌิมาปฎิปทา )
          • มรรค การปฏิบัติเพื่อจำกัดทุกข์ เพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ การปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา เพื่อบรรลุเป้าหมายการแก้ปัญหาที่ต้องการ

          ๓. ความไม่ประมาท ความไม่ประมาทคือ การมีสติเสมอทั้ง ขณะทำขณะพูด และขณะคิด สติคือการระลึกได้ ในภาคปฎิบัติเพื่อนำ มาใช้ในชีวิตประจำวัน หมายถึง การระลึกรู้ทันการเคลื่อนไหว ของอริยาบท ๔ คือ เดิน ยืน นั่ง นอน การฝึกให้เกิดสติทำได้โดยตั้งสติกำหนดการเคลื่อนไหวของอริยาบท กล่าวคือ ระลึกทันทั้งในขณะ ยืน เดิน นั่ง และนอน รวมทั้ง ระลึกรู้ทัน ในขณะพูดคิด และขณะทำงานต่างๆ เมื่อทำได้อย่างนี้ก็ชื่อว่า มีความไม่ประมาท การทำงานต่างๆ สำเร็จได้ก็ด้วยความไม่ประมาท กล่าวคือผู้ทำย่อมต้องมีสติระลึกรู้อยู่ว่า ตนเองเป็นใครมีหน้าที่อะไร และกำลังทำอย่างไร หากมีสติระลึกรู้ได้อย่างนั้น ก็ย่อมไม่ผิดพลาด

กิจกรรมในวันวิสาขบูชา
          ทางราชการประกาศชักชวนให้ประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ทั้งเอกชน และราชการประดับตกแต่งอาคารสถานที่ด้วยธงชาติ ธงเสมาธรรมจักร จุดประทีบโคมไฟ แต่โดยทางปฎิบัติแล้ว ใช้หลอดไฟประดับหลากสี ในวันขึ้น ๑๔-๑๕ ค่ำ เดือน ๖
          พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จประกอบพระราชกุศล ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงบาตร ในตอนเช้า ในตอนเย็น ทรงนำเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ และสดับพระธรรมเทศนาในพระอุโบสถ พร้อมทั้งถวายไทยธรรม
          • จัดงานส่งเสริมพระพุทธศาสนาที่บริเวณท้องสนามหลวงเป็นประจำทุกปี แต่ละปีมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาหลากหลายหน่วยงาน ทั้งทางราชการ และเอกชนทั้งฝ่ายบรรพชิต และคฤหัสถ์ ร่วมกันจัดงานอันยิ่งใหญ่สร้างความศรัทธาให้แก่พุทธศาสนิกชนบำเพ็ญกุศล มีการทำบุญตักบาตร ให้ทานรักษาศีลฟังธรรม สนทนาธรรม เวียนเทียน เจริญภาวนาเป็นที่ประทับใจยิ่งนัก
          • สถานที่จัดกิจกรรมในวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งก็คือ ณ บริเวณพุทธมณฑล ซึ่งมีหน่วยงานกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธการร่วมกับประชาชนทั่วไป ได้จัดกิจกรรมปฎิบัติธรรมทั้งฝ่าย พระสงฆ์ และฆราวาส มีจำนวนหลายหมื่นได้ร่วมทำบุญตักบาตรให้ทานรักษาศีล ฟังธรรม สนทนาธรรม และเจริญภาวนาแผ่เมตตาถวายเป๋นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ ปัจจุบัน เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุครบ ๗๒ พรรษา และในวันวิสาขบูชา ณ บริเวณพุทธมณฑลนี้เอง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานทรงเวียนเทียนทุกปีด้วย
          • พระสงฆ์ผู้จัดรายการธรรม ทางสถานีวิทยุ เกือบทุกรายการทั่วประเทศเมื่อถึงสำคัญ คือวันวิสาขบูชาเช่นนี้ ก็มี
การประชาสัมพันธ์เชิญชวนพุทธศาสนิกชนบำเพ็ญกุศล เป็นกรณีพิเศษ คือ บรรพชาอุปสมบทนาคหมู่ และบวช เนกขัมมะ เพื่อปฎิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชะ ธรรมบูชา เป็นการช่วยสนับสนุน ส่งเสริม สร้างความสงบสุขให้แก่บุคคลและสร้างความสามัคคีธรรมให้แก่สังคม ตลอดถึงประเทศชาติอีกด้วย


เจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

[ดูภาพทั้งหมดในหมวด]
วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากล
ภูมิหลัง
          ๑. ในการประชุม International Buddhist Conference ณ กรุงโคลัมโบ ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ ซึ่งมีผู้แทนจากประเทศที่นับถือศาสนาพุทธจำนวนมากเข้าร่วม อาทิ บังคลาเทศ จีน ลาว เกาหลีใต้ เวียดนาม ภูฐาน อินโดนีเซีย เนปาล กัมพูชา อินเดีย ปากีสถาน และไทย ได้ตกลงกันที่จะเสนอให้สมัชชาสหประชาชาติรับรองข้อมติประกาศวัน วิสาขบูชาให้เป็นวันหยุดของสหประชาชาติ

          ๒. ในการเยือนของประเทศต่างๆ ในอินโดจีนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศรีลังกา ในปี ๒๕๔๒ ก็ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือ และได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ ได้ด้วยดี
          ๓. คณะทูตถาวรศรีลังกาประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์กได้จัดเตรียมร่างข้อมติ และได้ขอเสียงสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ เพื่อให้มีการรับรองข้อมติเรื่องการประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุดของสห ประชาชาติในที่ประชุมสมัชชา สหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๕๔
          ๔. โดยที่สหประชาชาติประกาศวันหยุดเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และจะเป็นปัญหาในเรื่องงบประมาณและการบริหารแก่ สหประชาชาติ หากประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุด ศรีลังกาจึงได้ตัดสินใจที่จะเสนอร่างข้อมติ ขอให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลที่สหประชาชาติ ทั้งที่สำนักงานใหญ่ และสำนักงานต่าง ๆ แทนการเสนอให้เป็นวันหยุดซึ่ง ออท. ผู้แทนถาวรประเทศต่าง ๆ รวม ๑๖ ประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา บังคลาเทศ ภูฐาน กัมพูชา ลาว มัลดีฟส์ มองโกเลีย พม่า เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ สเปน อินเดีย ไทย และยูเครน ได้ร่วมลงนามในหนังสือถึงประธานสมัชชาฯ เพื่อให้นำเรื่องวันวิสาขบูชาเข้าเป็นระเบียบวาระการประชุมของสมัชชาฯ
          ๕. ต่อมาเมื่อ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ General Committee ของสมัชชาฯ ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว โดย ออท.ผู้แทน ถาวรศรีลังกาได้กล่าวถ้อยแถลงสนับสนุนหนังสือร้องขอให้ที่ประชุมบรรจุ ระเบียบวาระดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสมัชชาเต็มคณะ ออท.ผู้แทนถาวรไทย อินเดีย สเปน บังคลาเทศ ปากีสถาน ไซปรัส ลาว และภูฐาน ได้กล่าวถ้อย แถลงสนับสนุน ซึ่งที่ประชุม General Committee ได้มีมติให้บรรจุเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสมัชชาเต็มคณะ
ปัจจุบัน
          ๑. เมื่อ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๕๔ ได้พิจารณาระเบียบวาระที่ ๑๗๔ International recognition of the Day of Visak โดยการเสนอของศรีลังกา

          ๒. ในการพิจารณา ประธานสมัชชาฯ ได้เชิญผู้แทนศรีลังกาขึ้นกล่าวนำเสนอร่างข้อมติ และเชิญผู้แทนไทย สิงคโปร์ บังคลาเทศ ภูฐาน สเปน พม่า เนปาล ปากีสถาน อินเดียขึ้นกล่าวถ้อยแถลง สรุปความว่า วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ทรงตรัสรู้ เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้มวลมนุษย์มีเมตตาธรรมและขันติธรรม ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อให้เกิดสันติสุขในสังคม อันเป็นแนวทางของ สหประชาชาติ จึงขอให้ที่ประชุมรับรองข้อมตินี้ ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองความสำคัญของพุทธศาสนาในองค์การสหประชาชาติ โดยถือว่าวันดังกล่าวเป็นที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติและที่ทำการ สมัชชาจะจัดให้มีการระลึกถึง (observance) ตามความเหมาะสม
          ๓. ที่ประชุมฯ ได้รับรองร่างข้อมติโดยฉันทามติ
- ถ้อยแถลงของเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฯ ศรีลังกาประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
- ถ้อยแถลงของนายวรวีร์ วีรสัมพันธ์ อุปทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก

          เหตุผลที่ องค์การสหประชาชาติหนดให้ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของโลก เนื่องจากคณะกรรมมาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ร่วมพิจารณาและมีมติเห็นพ้องต้องกันประกาศให้วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลกทั้งนี้ ด้วยสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวล มนุษย์ทั้งหลายในโลก จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย กล่าวคือ ทรงสอนให้ไม่ฆ่าสัตว์ ให้รู้จักช่วยเหลือสัตว์ เหตุผลสำคัญ อีกประการหนึ่งคือ พระองค์ ทรงเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จ จริงได้ โดย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนา พุทธและทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน
ข้อมูลจาก www.dhammathai.org
 อ่านข้อมูล วันวิสาขบูชา เพิ่มเติม ที่ http://campus.sanook.com/921748/

Robert Moog ครบรอบวันเกิด ปีที่ 78


Google วันนี้มีอะไรๆ น่ารักๆ ให้เราเล่นกันอีกแล้ว คราวนี้มาในรูปแบบ เครื่องดนตรีสำหรับสังเคราะห์เสียง ลองๆเอาเม้าส์กดเล่นดิสิ ^^

วันนี้เรามารู้จัก Robert Moog ผู้สร้างสรรค์ ซินธิไซเซอร์ของดนตรีสมัยใหม่กัน
Robert Moog เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1934 ใน New York สำเร็จปริญญาเอกทางด้านวิศวกรรมฟิสิกส์จาก Cornell University เริ่มทำงานการผลิตเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงวัยรุ่น ต่อมาไปได้เข้าทำงานในบริษัท การผลิตเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์
โรเบิร์ต Moog เข้าร่วมโรงเรียนบรองซ์สูงของวิทยาศาสตร์ใน New York, จบการศึกษาในปี 1952 Moog ได้รับปริญญาตรีในสาขาฟิสิกส์จาก Queens College, New York ในปี 1957 อีกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและปริญญาเอก ในงานวิศวกรรมฟิสิกส์จาก Cornell University รางวัล Moog ได้แก่ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากสถาบันโพลีเทคนิคของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (New York City) และมิงวิทยาลัย (วิลเลียมเพนซิล)
Robert Moog ก่อตั้งบริษัท ในการผลิตเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ Moog ยังทำงานเป็นที่ปรึกษาและรองประธานฝ่ายวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ระบบเคิซเพลง 1984-1988, ช่วยในการพัฒนาเคิซ K2000 เขาใช้เวลาช่วงปี 1990 เป็นอาจารย์วิจัยของดนตรีที่มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาแอชวิล



ภรรยาคนแรกของ Moog คือ Shirleigh Moog (née Shirley พฤษภาคม Leigh) ทั้งคู่มีลูกสาว 3 (ลอร่า Moog Lanier, มิเชล Moog-Koussa, Renee Moog) และบุตรชายหนึ่งคน (มัทธิว Moog) ก่อนที่จะหย่าร้างกัน Moog ได้แต่งงานใหม่กับ ภรรยาคนที่สอง ชื่อ Ileana

Robert Moog ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในสมองเมื่อ 28 เมษายน 2005 เกือบสี่เดือนต่อมามุกจ์เสียชีวิตเมื่ออายุ 71 ใน Asheville, North Carolina
ในปี 2002 เขาได้รับรางวัลแกรมมี่สำหรับความสำเร็จทางด้านเทคนิค Moog และเขามรณกรรมเนื่องจากเนื้องอกในสมองเมื่อ 21 สิงหาคม 2005
- Robert Moog ผู้สร้างเสียงดนตรีสุดแปลก

นอกจากนี้ Bob Moog ยังสร้างมาตรฐานสำหรับการควบคุมการส่งสัญญาณด้วยการกำหนด 1 โวลต์ต่อ 1 ออกเตฟ (Octave) ในการควบคุมระดับเสียงและแยกสัญญาณส่วนเกิน นี่เป็นมาตรฐานที่ทำให้ซินธิไซเซอร์เปลี่ยนจากเครื่องมือที่ยุ่งยากเป็น เครื่องที่ง่ายต่อการใช้ การควบคุมระดับเสียงมักจะใช้กำหนดทั้งออแกนในรูปแบบของคีย์บอร์ดหรือ เครื่องจัดเรียงเสียงดนตรี (music sequencer) ซึ่งสร้างลำดับในการควบคุมแรงดันไฟฟ้าเพื่อการกำหนดคาบเวลา และยังอนุญาตให้สร้างเสียงดนตรีบางตัวโดยอัตโนมัติ

แหล่งที่มา :
http://guru.sanook.com/pedia/topic/Robert_Moog_ผู้สร้างเสียงดนตรีสุดแปลก/
http://campus.sanook.com/950997/


Robert Moog's 78th Birthday

ทํานายฝัน ทํานายความฝัน ทำนายฝันเลขเด็ด ทำนายฝัน ฟรี

ทํานายฝัน ทํานายความฝัน


ดูดวง ทำนายฝัน เลขเด็ด


ความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับความฝัน

ตรวจหวย งวด 16 พฤษภาคม 2555


ตรวจหวย

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจหวย 16 พฤษภาคม 2555

ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจหวย 16 พฤษภาคม 2555    
รางวัลที่ 1
รางวัลละ 2,000,000 บาท
เลขท้าย 3 ตัว
4 รางวัลๆละ 2,000 บาท
เลขท้าย 2 ตัว
1 รางวัลๆละ 1,000 บาท
           814418            504 309 902 101                          31

เว็บบอร์ด เลขเด็ด หวยดัง


เว็บบอร์ด เลขเด็ด หวยดัง New!   ตั้งกระทู้ใหม่ | ตั้งกระทู้โหวต | กระทู้ทั้งหมด

ประเด็นร้อนสุดๆ ความคิดเห็นล่าสุด
ประเด็นล่าสุด ความคิดเห็นล่าสุด

ตรวจหวย งวด 16 พฤษภาคม 2555


รวมความเชื่อเรื่องหวย

  1. คนกาฬสินธุ์แห่ขอหวยร่างทรงรังต่อหัวเสือคนกาฬสินธุ์แห่ขอหวยร่างทรงรังต่อหัวเสือ

    ชาวกาฬสินธุ์ แห่ขอหวยร่างทรงรังต่อหัวเสือ ชาวบ้านเชื่อ ตัวต่อ จะนำโชคลาภมาให้
  2. ฮือฮา! พบตุ๊กแก 2 หาง 2 ตัว ที่สกลนคร-แพร่ฮือฮา! พบตุ๊กแก 2 หาง 2 ตัว ที่สกลนคร-แพร่

    ฮือฮาพบคนเลี้ยงตุ๊กแกสองหางไว้ในกรงที่สกลนคร ส่วนอีกตัวพบที่แพร่ พบเกาะอยู่บนฝาบ้านนาน 2 ชั่วโมง ก่อนไต่กำแพงหายไป
  3. ฮือฮา! ภาพผู้หญิงมวยผม ปรากฏบนเสาไม้สักทองฮือฮา! ภาพผู้หญิงมวยผม ปรากฏบนเสาไม้สักทอง

    ชาวลำปางฮือฮา ใบหน้าผู้หญิงมีลักษณะมวยผมไว้บนศรีษะ ปรากฏขึ้นมาบนเสาไม้สักทอง เจ้าของบ้านเชื่อเป็นภาพเจ้าที่เจ้าทาง ผีปู่ย่า ปรากฎให้เห็น
  4. รวบตัว! หนุ่มใหญ่ปลอมหวยรางวัลที่ 5 มาขึ้นเงินรวบตัว! หนุ่มใหญ่ปลอมหวยรางวัลที่ 5 มาขึ้นเงิน

    หนุ่มใหญ่ตัดแปะหวยเอามาขึ้นเงิน เจ้าของร้านไหวตัวทัน โทรแจ้งตำรวจมากจับ พบนำเลขจากสลากใบอื่นมาแปะทับ เป็นเลขถูกรางวัลที่ 5 อย่างแนบเนียน
  5. ฮือฮา! ปลาหมอสีทอง เจ้าของเชื่อให้โชคฮือฮา! ปลาหมอสีทอง เจ้าของเชื่อให้โชค

    หนุ่มใหญ่ออกไปจับปลากลางทุ่งนา คืนวันที่ 5.5.55 จับได้ปลาหมอสีทอง เชื่อให้โชค ลั่นไม่ขายให้ใครเด็ดขาด

ฟังหวยออนไลน์

สถานี  ฟังหวยออนไลน์  คลิก! ที่นี่เลยค่ะ 

ฟังหวยออนไลน์



ลุ้น 27 เม.ย.ร้อนที่สุดจริงหรือ?


คาดการณ์ 27 เม.ย. จะร้อนที่สุดหรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ หากมีเมฆ ฝน ลมแรง อาจไม่ร้อนเท่าไร




ศูนย์ภูมิอากาศ สำนักพัฒนาอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เผยแพร่บทความว่า ในช่วงนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าวและบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัด (อุณหภูมิสูงสุด ≥ 40.0 o ซ.) ซึ่งเป็นสภาพอากาศปกติสำหรับในช่วงฤดูร้อน

โดยฤดูร้อนของไทย จะเริ่มต้นประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นระยะที่ขั้วโลกเหนือหันเข้าหาดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะเดือนเมษายนเป็นเดือนที่ทุกภาคของประเทศมีอากาศร้อนที่สุดในรอบปี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีดวงอาทิตย์อยู่เกือบตรงศรีษะในเวลา เที่ยงวัน ทำให้ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ สภาพอากาศโดยทั่วไปจึงร้อนอบอ้าว

หลายคนมักจะเข้าใจกันอยู่ตลอดมาว่าวันที่มีอากาศร้อนที่สุดในรอบปี ของประเทศไทยจะตรงกับวันที่ 27 เมษายน ความเป็นจริงก็คือวันดังกล่าวเป็นวันที่ตำแหน่งของดวงอาทิตย์ในตอนเที่ยงวัน จะอยู่ตรงกับศีรษะของคนในกรุงเทพมหานครเท่านั้น หลังจากนั้นตำแหน่งของดวงอาทิตย์ก็จะขยับขึ้นไปทางเหนือตามลำดับและจะอยู่ ตอนเหนือสุดของประเทศไทยประมาณวันที่ 23 พฤษภาคม จากนั้นยังคงเลื่อนขึ้นไปทางเหนือต่อไป และจะเลื่อนกลับลงมาตรงกับกรุงเทพมหานครอีกครั้งประมาณวันที่ 16 สิงหาคม

สำหรับวันที่ 27 เมษายนนั้น กรุงเทพมหานครจะมีอากาศร้อนที่สุดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันดังกล่าว หากวันนั้นมีเมฆมาก มีฝนตก หรือมีลมพัดแรงก็จะส่งผลให้อากาศคลายความร้อนอบอ้าวลงกว่าวันอื่นที่มีท้อง ฟ้าแจ่มใสหรือมีลมอ่อน และจากข้อมูลสถิติอุณหภูมิสูงที่สุดในเดือนเมษายนของกรุงเทพมหานครในรอบ 61 ปี (พ.ศ.2494-2554) พบว่า กรุงเทพมหานครมีอุณหภูมิสูงที่สุดตรงกับวันที่ 27 เมษายน เพียง 2 ครั้งเท่านั้น คือในปี พ.ศ.2497 และ 2502

จากข้อมูลของกรุงเทพมหานครดังกล่าว จะเห็นว่าตำแหน่งของดวงอาทิตย์ที่อยู่ตรงศีรษะตอนเที่ยงวันของวันที่ 27 เมษายน เป็นเพียงปัจจัยประกอบตัวหนึ่งเท่านั้น แม้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริเวณนั้นได้รับแสงอาทิตย์เต็มที่และมีโอกาส ที่จะมีสภาวะอากาศร้อนจัดมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆก็ตาม แต่ในบางปีอาจมีปัจจัยอื่นที่ทำให้อากาศคลายความร้อนอบอ้าวลง และทำให้วันที่มีอากาศร้อนที่สุดอยู่ในช่วงเวลาอื่นแทนที่จะเป็นวันที่ 27 เมษายนได้

ที่มา : http://campus.sanook.com/949935/

เครื่องอัดอิฐบล็อก



เครื่องอัดอิฐบล็อก 4 ก้อน ระบบไฮโดรริก 8000 ก้อนต่อวัน

เครื่องอัดอิฐบล็อก
  • ขายเครื่องอัดอิฐบล็อก 4 ก้อน ด้วยระบบไฮโดรริก 8000 ก้อนต่อวัน  ด่วน! มีจำนวนจำกัด
  • พร้อมรับ รับซ่อมเครื่องอัดอิฐบล็อก ซ่อมพิมพ์อิฐบล็อก จากช่างที่มีประสบการมากกว่า 25 ปี

ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณเอ

e-mail : noppaklaw_aa@hotmail.com

Tel : 080-0885818

1. เครื่องอัดอิฐบล็อก
2. ไฮโดรริก 3 ตัว
3. มอเตอร์ 4 ตัว – ตัวละ 3 เฟลต 5 แรง 3 ตัว 1แรง 1 ตัว
4. มอเตอร์เกียร์ 1 ตัว 1 แรง
5. กระเพาะ
6. พิมพ์ 1 ตัว
7. สายพาน ( ครบ)
8. โม้
รูปภาพเครื่องอัดอิฐบล็อค เพิ่มเติม
เครื่องอัดอิฐบล็อก
เครื่องอัดอิฐบล็อก


เครื่องอัดอิฐบล็อก
เครื่องอัดอิฐบล็อก

ถังน้ำมัน เครื่องอัดอิฐบล็อก
ถังน้ำมัน เครื่องอัดอิฐบล็อก

พิมพ์อิฐบล็อก
พิมพ์อิฐบล็อก

สายพาน เครื่องอัดอิฐบล็อก
สายพาน เครื่องอัดอิฐบล็อก


ที่มา : http://block-concrete.com/

Gideon Sundback

Gideon Sundback ผู้ให้กำเนิดซิป 






วันครบรอบวันเกิดวันที่ 132 ของ Gideon Sundback ผู้ให้กำเนิดซิป 


Gideon Sundback  เป็นชาวสวีเดน - อเมริกันวิศวกรไฟฟ้า Gideon Sundback มีความเกี่ยวข้องมากที่สุดกับการทำงานของเขาในการพัฒนาซิป
Gideon Sundback เกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 1880 เขาเป็นวิศวกรไฟฟ้า ผลงานของ  Gideon Sundback ได้ปรับปรุงและพัฒนาความก้าวหน้าของซิป



ซิป ( Zipper ) เป็นสิ่งประดิษฐ์อีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์อย่างอเนกประสงค์ และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในปัจจุบัน นักประดิษฐ์ชาวชิคาโกชื่อ วิทคอมบ์ จัดสัน ( Whitcom Judson ) เป็นผู้ประดิษฐ์ซิปชนิดแรกขึ้นมา และนำออกเผยแพร่เป็นครั้งแรกที่ Chicago Worlds Fair ปี ค.ศ. 1893 แต่ไม่ได้รับการต้อนรับจากผู้คนนัก คือ ขายได้น้อย เพราะซิปติดง่าย ทำงานไม่คล่องตัว
สองทศวรรษต่อมา กิเดียน ซุนด์แบกด์ ( Gideon Sundback ) วิศวกรชาวสวีเดน - อเมริกัน ได้ปรับปรุงซิปให้ใช้งานได้ดีขึ้น ทำให้ซิปได้รับความนิยมกว้างขวางขึ้น สำหรับชื่อ " Zipper " เป็นชื่อที่ตั้งโดย บี.เอฟ. กูดริช ( B.F. Goodrich ) ในปี ค.ศ. 1923 เป็นชื่อตั้งเลียนเสียงการเคลื่อนไหวขณะที่ซิปถูกรูดให้ทำงานเปิดหรือปิดซิป


ขอบคุณที่มา
  1. http://campus.sanook.com/949936/
  2. http://en.wikipedia.org/wiki/Gideon_Sundback



เรื่องย่อละครบ่วง

เรื่องย่อละครบ่วง



ณ ต้นกำเนิดของชีวิต อาจบรรจบกับจุดสุดท้ายของอวสาน
เป็นวัฏฏะที่เหล่ามนุษย์ต้องเวียนว่าย และเป็น " บ่วง " คล้องผูกพันกับกิเลสตัณหา
ไม่ว่าบ่วงบุญหรือบ่วงกรรม ต่างก็คล้องชีวิตให้ต้องวนเวียนเกิดขึ้นและจบลง
หน่วงให้ต้องทุกข์ทนในวังวนแห่งโลกและชีวิตอย่างมิรู้จบสิ้น

  
       "ศามน" (พัชฏะ  นามปาน) หนุ่มวัยทำงาน ตำแหน่งหน้าที่การงานดี เป็นถึงหัวหน้าฝ่ายบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาทั้งๆ ที่ยังอายุไม่มาก เขาเกิดที่เมืองไทยแต่ไปเติบโตที่อเมริกา เพราะต้องติดตามพ่อที่ทำงานเป็นทูตอยู่ที่นั่น
   
       ศามนเกิดมาพร้อมด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติอย่างที่สาวๆ หลายคนพึงพอใจ แต่เขาเลือกแต่งงานกับ "รัมภา" (ศรีริต้า  เจนเซ่น) สาวสวยที่เคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน แต่มีคนใจบุญรับเธอมาอุปการะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี รัมภาเป็นคนเพียบพร้อมทั้งกิริยามารยาทคู่ควรกับศามน สองคนพบรักกันที่อเมริกา และตัดสินใจแต่งงานกันจนมีลูกฝาแฝดชาย-หญิงที่น่ารักวัย 4 ขวบชื่อ "ศรุท" หรือ "รัตตี้" (ด.ช. ภัทรกร  ประเสริฐเศรษฐ) และ "ศรัย" หรือ "ไลล่า" (ด.ญ. ชินารดี  อนุพงษ์ภิชาติ) ครอบครัวนี้ถือว่าเป็นครอบครัวรุ่นใหม่ที่อบอุ่นและคอยเติมเต็มให้กันอย่างมีความสุข
  
       วันหนึ่งศามนได้รับการติดต่อจากญาติให้เดินทางกลับกรุงเทพฯโดยด่วน เพื่อมาร่วมงานศพคุณยายทวด และมารับมรดกตกทอดของตระกูลที่บ้านสวนเก่าหลังใหญ่แถบชานเมือง ซึ่งมีเนื้อที่เกือบห้าไร่ เขาตัดสินใจย้ายครอบครัวกลับมาตั้งรกรากที่นี่ และทำเรื่องย้ายงานจากบริษัทแม่ที่อเมริกามาประจำสาขาในไทย เพื่อมาอยู่ที่บ้านสวนหลังนี้กับครอบครัว โดยให้รัมภาเป็นแม่บ้านอยู่บ้านคอยดูแลลูกๆ
   
       ที่บ้านสวนแห่งนี้คนภายนอกมองว่าบรรยากาศน่ากลัวเพราะต้นไม้รกครึ้ม ไม่มีใครพักอาศัยอยู่เลย นอกจาก "ตาหล้า" (ชุมพร  เทพพิทักษ์) "ยายคำ" (พิมพ์แข  กุญชร ณ อยุธยา) และ "บุญสืบ" (ธงธง  มกจ๊ก) ลูก ชายจอมทะเล้น ข้าเก่าของคุณทวดที่คอยดูแลทำความสะอาดบ้าน ศามนไม่รู้สึกกลัวที่นี่เหมือนคนอื่น เพราะเขาเคยวิ่งเล่นมาตั้งแต่เล็กๆ แต่สำหรับรัมภาความรู้สึกแวบแรกตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาที่บ้านสวนแห่งนี้ เธอรู้สึกว่าที่นี่ดูวังเวงและชวนขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ที่เพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีกคือ หลังจากที่คุณทวดเสียชีวิตลง ศพของท่านยังคงบรรจุใส่โลงตั้งเอาไว้บนเรือนหลังใหญ่เพื่อรอการเผา รัมภามองรูปหน้าศพรู้สึกว่าคุณทวดมีแววตาแข็งกร้าว ดุดัน แต่เมื่อมองนานๆ เหมือนอุปทานว่าเห็นรอยยิ้มผุดขึ้นจากมุมปากของท่าน


  
       เมื่อมาถึงที่นี่ในคืนแรก มีเหตุการณ์ลึกลับที่ทำให้รัมภาต้องอกสั่นขวัญหายเกิดขึ้น ลูกแฝดของเธอหายตัวไปจากห้องนอนที่เรือนใหญ่อย่างไร้เงื่อนงำ คนทั้งบ้านช่วยกันตามหาตัวเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ยายคำคนดูแลบ้านบอกศามนและรัมภาว่า เด็กๆ คงถูกผีลักซ่อน ยายคำเลยให้ทั้งคู่ไปทำพิธีจุดธูปกำใหญ่หน้าโลงศพคุณทวด เพื่อให้ท่านช่วยดลใจให้เจอเด็กๆ ยายคำเชื่อว่าเด็กแฝดทั้งสองเป็นหลานแท้ๆ ของท่าน ท่านคงไม่น่ามาหยอกล้อแบบนี้ เมื่อปักธูปเสร็จ ทุกคนจึงได้ยินเสียงเด็กๆ และเจอตัวเด็กๆ เมื่อตอนใกล้เช้าในที่สุด
  
       ไม่ เพียงเท่านั้น รัมภามักหูแว่วได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กอันเยือกเย็น ในขณะที่ศามนกลับหูแว่วได้ยินเสียงท่องมนตร์ดำ ที่แสนเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ของหญิงคนหนึ่งที่คุ้นหู ทั้งสองต่างเก็บนิมิตเสียงอันแตกต่างเหล่านี้ไว้ไม่บอกกันและกัน


อ่านเรื่องย่อละครบ่วง เพิ่มเติมที่ http://movie.sanook.com/31884/

งานแต่งวุ้นเส้น ชาคริต

คืนดาวจรัส! ดาราแห่ร่วมยินดี งานแต่งวุ้นเส้น ชาคริต


คืนดาวจรัส! ดาราแห่ร่วมยินดีงานแต่ง วุ้นเส้น ชาคริต
คืนนี้คงเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่พิเศษที่สุดสำหรับคู่บ่าวสาวคู่ใหม่ของวงการบันเทิงไทย "ชาคริต แย้มนาม" และ "วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ แย้มนาม" เพราะนอกจากจะเป็นคืนที่ทั้งคู่ได้ร่วมจูงมือเข้าประตูวิวาห์กันแล้ว ยังเป็นคืนที่เหล่าซุปเปอร์สตาร์เมืองทั่วฟ้าเมืองไทยตบเท้าร่วมแสดงความ ยินดีในงานฉลองวันวิวาห์ให้กับทั้งสองคนอย่างคับคั่ง อาทิ เบิร์ด ธงไชย, ชมพู่ อารยา, หมิว ลลิตา, เป้ย ปานวาด, บอย ปกรณ์ ฯลฯ
คืนดาวจรัส! ดาราแห่ร่วมยินดีงานแต่ง วุ้นเส้น ชาคริต
ทีมข่าวบันเทิง S!news ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

บรรยากาศงานแต่งชาคริต-วุ้่นเส้น-สุดโรแมนติก (ช่วงเช้า)
ภาพงานเลี้ยงฉลองงานแต่ง (ช่วงค่ำ)
วุ้นเส้น-ชาคริต รักนี้สวรรค์จัดให้ (ของชำร่วย)