ลุ้น 27 เม.ย.ร้อนที่สุดจริงหรือ?


คาดการณ์ 27 เม.ย. จะร้อนที่สุดหรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ หากมีเมฆ ฝน ลมแรง อาจไม่ร้อนเท่าไร




ศูนย์ภูมิอากาศ สำนักพัฒนาอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เผยแพร่บทความว่า ในช่วงนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าวและบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัด (อุณหภูมิสูงสุด ≥ 40.0 o ซ.) ซึ่งเป็นสภาพอากาศปกติสำหรับในช่วงฤดูร้อน

โดยฤดูร้อนของไทย จะเริ่มต้นประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นระยะที่ขั้วโลกเหนือหันเข้าหาดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะเดือนเมษายนเป็นเดือนที่ทุกภาคของประเทศมีอากาศร้อนที่สุดในรอบปี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีดวงอาทิตย์อยู่เกือบตรงศรีษะในเวลา เที่ยงวัน ทำให้ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ สภาพอากาศโดยทั่วไปจึงร้อนอบอ้าว

หลายคนมักจะเข้าใจกันอยู่ตลอดมาว่าวันที่มีอากาศร้อนที่สุดในรอบปี ของประเทศไทยจะตรงกับวันที่ 27 เมษายน ความเป็นจริงก็คือวันดังกล่าวเป็นวันที่ตำแหน่งของดวงอาทิตย์ในตอนเที่ยงวัน จะอยู่ตรงกับศีรษะของคนในกรุงเทพมหานครเท่านั้น หลังจากนั้นตำแหน่งของดวงอาทิตย์ก็จะขยับขึ้นไปทางเหนือตามลำดับและจะอยู่ ตอนเหนือสุดของประเทศไทยประมาณวันที่ 23 พฤษภาคม จากนั้นยังคงเลื่อนขึ้นไปทางเหนือต่อไป และจะเลื่อนกลับลงมาตรงกับกรุงเทพมหานครอีกครั้งประมาณวันที่ 16 สิงหาคม

สำหรับวันที่ 27 เมษายนนั้น กรุงเทพมหานครจะมีอากาศร้อนที่สุดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันดังกล่าว หากวันนั้นมีเมฆมาก มีฝนตก หรือมีลมพัดแรงก็จะส่งผลให้อากาศคลายความร้อนอบอ้าวลงกว่าวันอื่นที่มีท้อง ฟ้าแจ่มใสหรือมีลมอ่อน และจากข้อมูลสถิติอุณหภูมิสูงที่สุดในเดือนเมษายนของกรุงเทพมหานครในรอบ 61 ปี (พ.ศ.2494-2554) พบว่า กรุงเทพมหานครมีอุณหภูมิสูงที่สุดตรงกับวันที่ 27 เมษายน เพียง 2 ครั้งเท่านั้น คือในปี พ.ศ.2497 และ 2502

จากข้อมูลของกรุงเทพมหานครดังกล่าว จะเห็นว่าตำแหน่งของดวงอาทิตย์ที่อยู่ตรงศีรษะตอนเที่ยงวันของวันที่ 27 เมษายน เป็นเพียงปัจจัยประกอบตัวหนึ่งเท่านั้น แม้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริเวณนั้นได้รับแสงอาทิตย์เต็มที่และมีโอกาส ที่จะมีสภาวะอากาศร้อนจัดมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆก็ตาม แต่ในบางปีอาจมีปัจจัยอื่นที่ทำให้อากาศคลายความร้อนอบอ้าวลง และทำให้วันที่มีอากาศร้อนที่สุดอยู่ในช่วงเวลาอื่นแทนที่จะเป็นวันที่ 27 เมษายนได้

ที่มา : http://campus.sanook.com/949935/

เครื่องอัดอิฐบล็อก



เครื่องอัดอิฐบล็อก 4 ก้อน ระบบไฮโดรริก 8000 ก้อนต่อวัน

เครื่องอัดอิฐบล็อก
  • ขายเครื่องอัดอิฐบล็อก 4 ก้อน ด้วยระบบไฮโดรริก 8000 ก้อนต่อวัน  ด่วน! มีจำนวนจำกัด
  • พร้อมรับ รับซ่อมเครื่องอัดอิฐบล็อก ซ่อมพิมพ์อิฐบล็อก จากช่างที่มีประสบการมากกว่า 25 ปี

ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณเอ

e-mail : noppaklaw_aa@hotmail.com

Tel : 080-0885818

1. เครื่องอัดอิฐบล็อก
2. ไฮโดรริก 3 ตัว
3. มอเตอร์ 4 ตัว – ตัวละ 3 เฟลต 5 แรง 3 ตัว 1แรง 1 ตัว
4. มอเตอร์เกียร์ 1 ตัว 1 แรง
5. กระเพาะ
6. พิมพ์ 1 ตัว
7. สายพาน ( ครบ)
8. โม้
รูปภาพเครื่องอัดอิฐบล็อค เพิ่มเติม
เครื่องอัดอิฐบล็อก
เครื่องอัดอิฐบล็อก


เครื่องอัดอิฐบล็อก
เครื่องอัดอิฐบล็อก

ถังน้ำมัน เครื่องอัดอิฐบล็อก
ถังน้ำมัน เครื่องอัดอิฐบล็อก

พิมพ์อิฐบล็อก
พิมพ์อิฐบล็อก

สายพาน เครื่องอัดอิฐบล็อก
สายพาน เครื่องอัดอิฐบล็อก


ที่มา : http://block-concrete.com/

Gideon Sundback

Gideon Sundback ผู้ให้กำเนิดซิป 






วันครบรอบวันเกิดวันที่ 132 ของ Gideon Sundback ผู้ให้กำเนิดซิป 


Gideon Sundback  เป็นชาวสวีเดน - อเมริกันวิศวกรไฟฟ้า Gideon Sundback มีความเกี่ยวข้องมากที่สุดกับการทำงานของเขาในการพัฒนาซิป
Gideon Sundback เกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 1880 เขาเป็นวิศวกรไฟฟ้า ผลงานของ  Gideon Sundback ได้ปรับปรุงและพัฒนาความก้าวหน้าของซิป



ซิป ( Zipper ) เป็นสิ่งประดิษฐ์อีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์อย่างอเนกประสงค์ และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในปัจจุบัน นักประดิษฐ์ชาวชิคาโกชื่อ วิทคอมบ์ จัดสัน ( Whitcom Judson ) เป็นผู้ประดิษฐ์ซิปชนิดแรกขึ้นมา และนำออกเผยแพร่เป็นครั้งแรกที่ Chicago Worlds Fair ปี ค.ศ. 1893 แต่ไม่ได้รับการต้อนรับจากผู้คนนัก คือ ขายได้น้อย เพราะซิปติดง่าย ทำงานไม่คล่องตัว
สองทศวรรษต่อมา กิเดียน ซุนด์แบกด์ ( Gideon Sundback ) วิศวกรชาวสวีเดน - อเมริกัน ได้ปรับปรุงซิปให้ใช้งานได้ดีขึ้น ทำให้ซิปได้รับความนิยมกว้างขวางขึ้น สำหรับชื่อ " Zipper " เป็นชื่อที่ตั้งโดย บี.เอฟ. กูดริช ( B.F. Goodrich ) ในปี ค.ศ. 1923 เป็นชื่อตั้งเลียนเสียงการเคลื่อนไหวขณะที่ซิปถูกรูดให้ทำงานเปิดหรือปิดซิป


ขอบคุณที่มา
  1. http://campus.sanook.com/949936/
  2. http://en.wikipedia.org/wiki/Gideon_Sundback



เรื่องย่อละครบ่วง

เรื่องย่อละครบ่วง



ณ ต้นกำเนิดของชีวิต อาจบรรจบกับจุดสุดท้ายของอวสาน
เป็นวัฏฏะที่เหล่ามนุษย์ต้องเวียนว่าย และเป็น " บ่วง " คล้องผูกพันกับกิเลสตัณหา
ไม่ว่าบ่วงบุญหรือบ่วงกรรม ต่างก็คล้องชีวิตให้ต้องวนเวียนเกิดขึ้นและจบลง
หน่วงให้ต้องทุกข์ทนในวังวนแห่งโลกและชีวิตอย่างมิรู้จบสิ้น

  
       "ศามน" (พัชฏะ  นามปาน) หนุ่มวัยทำงาน ตำแหน่งหน้าที่การงานดี เป็นถึงหัวหน้าฝ่ายบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาทั้งๆ ที่ยังอายุไม่มาก เขาเกิดที่เมืองไทยแต่ไปเติบโตที่อเมริกา เพราะต้องติดตามพ่อที่ทำงานเป็นทูตอยู่ที่นั่น
   
       ศามนเกิดมาพร้อมด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติอย่างที่สาวๆ หลายคนพึงพอใจ แต่เขาเลือกแต่งงานกับ "รัมภา" (ศรีริต้า  เจนเซ่น) สาวสวยที่เคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน แต่มีคนใจบุญรับเธอมาอุปการะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี รัมภาเป็นคนเพียบพร้อมทั้งกิริยามารยาทคู่ควรกับศามน สองคนพบรักกันที่อเมริกา และตัดสินใจแต่งงานกันจนมีลูกฝาแฝดชาย-หญิงที่น่ารักวัย 4 ขวบชื่อ "ศรุท" หรือ "รัตตี้" (ด.ช. ภัทรกร  ประเสริฐเศรษฐ) และ "ศรัย" หรือ "ไลล่า" (ด.ญ. ชินารดี  อนุพงษ์ภิชาติ) ครอบครัวนี้ถือว่าเป็นครอบครัวรุ่นใหม่ที่อบอุ่นและคอยเติมเต็มให้กันอย่างมีความสุข
  
       วันหนึ่งศามนได้รับการติดต่อจากญาติให้เดินทางกลับกรุงเทพฯโดยด่วน เพื่อมาร่วมงานศพคุณยายทวด และมารับมรดกตกทอดของตระกูลที่บ้านสวนเก่าหลังใหญ่แถบชานเมือง ซึ่งมีเนื้อที่เกือบห้าไร่ เขาตัดสินใจย้ายครอบครัวกลับมาตั้งรกรากที่นี่ และทำเรื่องย้ายงานจากบริษัทแม่ที่อเมริกามาประจำสาขาในไทย เพื่อมาอยู่ที่บ้านสวนหลังนี้กับครอบครัว โดยให้รัมภาเป็นแม่บ้านอยู่บ้านคอยดูแลลูกๆ
   
       ที่บ้านสวนแห่งนี้คนภายนอกมองว่าบรรยากาศน่ากลัวเพราะต้นไม้รกครึ้ม ไม่มีใครพักอาศัยอยู่เลย นอกจาก "ตาหล้า" (ชุมพร  เทพพิทักษ์) "ยายคำ" (พิมพ์แข  กุญชร ณ อยุธยา) และ "บุญสืบ" (ธงธง  มกจ๊ก) ลูก ชายจอมทะเล้น ข้าเก่าของคุณทวดที่คอยดูแลทำความสะอาดบ้าน ศามนไม่รู้สึกกลัวที่นี่เหมือนคนอื่น เพราะเขาเคยวิ่งเล่นมาตั้งแต่เล็กๆ แต่สำหรับรัมภาความรู้สึกแวบแรกตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาที่บ้านสวนแห่งนี้ เธอรู้สึกว่าที่นี่ดูวังเวงและชวนขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ที่เพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีกคือ หลังจากที่คุณทวดเสียชีวิตลง ศพของท่านยังคงบรรจุใส่โลงตั้งเอาไว้บนเรือนหลังใหญ่เพื่อรอการเผา รัมภามองรูปหน้าศพรู้สึกว่าคุณทวดมีแววตาแข็งกร้าว ดุดัน แต่เมื่อมองนานๆ เหมือนอุปทานว่าเห็นรอยยิ้มผุดขึ้นจากมุมปากของท่าน


  
       เมื่อมาถึงที่นี่ในคืนแรก มีเหตุการณ์ลึกลับที่ทำให้รัมภาต้องอกสั่นขวัญหายเกิดขึ้น ลูกแฝดของเธอหายตัวไปจากห้องนอนที่เรือนใหญ่อย่างไร้เงื่อนงำ คนทั้งบ้านช่วยกันตามหาตัวเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ยายคำคนดูแลบ้านบอกศามนและรัมภาว่า เด็กๆ คงถูกผีลักซ่อน ยายคำเลยให้ทั้งคู่ไปทำพิธีจุดธูปกำใหญ่หน้าโลงศพคุณทวด เพื่อให้ท่านช่วยดลใจให้เจอเด็กๆ ยายคำเชื่อว่าเด็กแฝดทั้งสองเป็นหลานแท้ๆ ของท่าน ท่านคงไม่น่ามาหยอกล้อแบบนี้ เมื่อปักธูปเสร็จ ทุกคนจึงได้ยินเสียงเด็กๆ และเจอตัวเด็กๆ เมื่อตอนใกล้เช้าในที่สุด
  
       ไม่ เพียงเท่านั้น รัมภามักหูแว่วได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กอันเยือกเย็น ในขณะที่ศามนกลับหูแว่วได้ยินเสียงท่องมนตร์ดำ ที่แสนเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ของหญิงคนหนึ่งที่คุ้นหู ทั้งสองต่างเก็บนิมิตเสียงอันแตกต่างเหล่านี้ไว้ไม่บอกกันและกัน


อ่านเรื่องย่อละครบ่วง เพิ่มเติมที่ http://movie.sanook.com/31884/

งานแต่งวุ้นเส้น ชาคริต

คืนดาวจรัส! ดาราแห่ร่วมยินดี งานแต่งวุ้นเส้น ชาคริต


คืนดาวจรัส! ดาราแห่ร่วมยินดีงานแต่ง วุ้นเส้น ชาคริต
คืนนี้คงเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่พิเศษที่สุดสำหรับคู่บ่าวสาวคู่ใหม่ของวงการบันเทิงไทย "ชาคริต แย้มนาม" และ "วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ แย้มนาม" เพราะนอกจากจะเป็นคืนที่ทั้งคู่ได้ร่วมจูงมือเข้าประตูวิวาห์กันแล้ว ยังเป็นคืนที่เหล่าซุปเปอร์สตาร์เมืองทั่วฟ้าเมืองไทยตบเท้าร่วมแสดงความ ยินดีในงานฉลองวันวิวาห์ให้กับทั้งสองคนอย่างคับคั่ง อาทิ เบิร์ด ธงไชย, ชมพู่ อารยา, หมิว ลลิตา, เป้ย ปานวาด, บอย ปกรณ์ ฯลฯ
คืนดาวจรัส! ดาราแห่ร่วมยินดีงานแต่ง วุ้นเส้น ชาคริต
ทีมข่าวบันเทิง S!news ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

บรรยากาศงานแต่งชาคริต-วุ้่นเส้น-สุดโรแมนติก (ช่วงเช้า)
ภาพงานเลี้ยงฉลองงานแต่ง (ช่วงค่ำ)
วุ้นเส้น-ชาคริต รักนี้สวรรค์จัดให้ (ของชำร่วย)

บรรยากาศงานแต่งแอฟ สงกรานต์ ช่วงบ่าย


บรรยากาศงานแต่งแอฟ สงกรานต์ ช่วงบ่าย
หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าแอฟ ทักษอร และ สงกรานต์ เตชะณรงค์ เข้าพิธีสมรสท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ โบนันซ่า เขาใหญ่ หลังเสร็จพิธีก็มีงานเลี้ยงรัปประทานอาหารกลางวันในเต็นท์ที่ล้อมรอบไปด้วย ภูเขา คู่บ่าวสาวมือใหม่ก็เปลี่ยนเป็นชุดออกมารับแขก โดยเจ้าสาวแอฟ ทักษอร มาในชุดราตรีสีขาวแบบเบาๆ เจ้าบ่าวสงกรานต์ก็มาในชุดสูทสีขาวเช่นกัน โดยมีเพื่อนเจ้าสาวตัวน้อยน่ารักมาช่วยให้อากาศร้อนๆ เย็นลงไปทันตา

บรรยากาศงานแต่งแอฟ สงกรานต์ ช่วงบ่าย


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ งานแต่งแอฟ สงกรานต์ 
ภาพพรีเวดดิ้ง แอฟ-สงกรานต์
งานวิวาห์ แอฟ สงกรานต์ หวานชื่นกลางโบนันซ่า
ภาพพรีเวดดิ้ง งานแต่งแอฟ-สงกรานต์



อุปกรณ์เล่นน้ำยอดฮิต ในวันสงกรานต์


ก่อนอื่นขอกล่าวคำว่า สวัสดีปีใหม่วันสงกรานต์ 2555 ครับ *--------------*
สงกรานต์ปีนี้เพื่อนๆ Sanook! Campus มีแผนจะไปเล่นน้ำสงกรานต์กันที่ไหนบ้างหนอ ไปเล่น เชียงใหม่ ขอนแก่น หรือ ในกรุงเทพ แต่จะให้ดีเล่นแถวๆบ้านง่ายสุด ฮ่าๆ แล้ว อุปกรณ์เล่นน้ำยอดฮิต ที่เรามักพบเห็นผู้คนทั่วไปนิยมกันก็คือ 5 อย่างดังนี้
ปืนฉีดน้ำ อุปกรณ์เล่นน้ำยอดฮิต ในวันสงกรานต์

1. ปืนฉีดน้ำ

เดี๋ยวนี้ปืนฉีดน้ำก็ผลิตออกมา ได้น่ารัก น่าใช้มากๆ มีสารพัดแบบ เพื่อนๆ คนไหนจะออกไปเล่นสงกรานต์อย่าลืมหาซื้อไว้สัก 1 อันนะครับ จะราคาไหน ขนาดไหน จัดไปตามสตางค์ในกระเป๋าครับ

ดินสอพอง อุปกรณ์เล่นน้ำยอดฮิต ในวันสงกรานต์

2.  ดินสอพอง

ดินสอพองเป็นอุปกรณ์ที่เล่นกันมา แต่สมัยคุณพ่อ คุณแม่ยังสาว ดินสอพองจัดว่าเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง เป็นแร่ธาตุดิน แถมยังมีส่วนผสมของสมุนไพรนานาชนิดดีต่อสุขภาพผิวสุดๆ (แต่ระวังบางคนแพ้ด้วยเน้ออ)

ถังน้ำ-ขันน้ำ อุปกรณ์เล่นน้ำยอดฮิต ในวันสงกรานต์

3 ถังน้ำ-ขัน

จะออกไปเล่นทั้งที ต้องจัดหนัก จัดเต็ม เตรียมถังน้ำใบใหญ่ๆไปหลายๆใบ จุน้ำได้เยอะ ใครโดนสาดรับรองเปลียกแน่ คิคิ
น้ำอบไทย อุปกรณ์เล่นน้ำยอดฮิต ในวันสงกรานต์


4. น้ำอบไทย
น้ำอบไทย คือ "น้ำอบที่อบด้วยควันกำยาน เทียนอบ ดอกไม้ และปรุงด้วยเครื่องหอม" สงกรานต์นี้อย่าลืม นำน้ำอบไทยไปผสมน้ำสรงน้ำพระ รดน้ำผู้ใหญ่ นำติดไปเล่นสงกรานต์ก็ได้นะเพิ่มกลิ่นหอม สดชื่นได้อีก
พาหนะ อุปกรณ์เล่นน้ำยอดฮิต ในวันสงกรานต์

5. พาหนะ รถกระบะ มอเตอร์ไซค์
อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับวัยรุ่นอย่างเราๆ ก็คือเจ้าพาหนะที่จะนำพาเราไปเล่นสงกรานต์ มีปืนฉีดน้ำแล้ว มีดินสองพองแล้ว แต่ถ้าขาดพาหนะไป ก็ทำความความมันส์ในการเล่นสงกรานต์ของเราลดลงไปเหมือนกัน คำเตือนใครขับมอเตอร์ไซค์เล่นสงกรานต์ขอให้ระมัดระวังให้มากๆ อย่าประมาท


ขอบคุณที่มา : http://campus.sanook.com/949612/